คางคก ผสมพันธุ์




                                                               


 คางคกบ้าน อังกฤษ: Asian common toad, Black-spined toad ชื่อวิทยาศาสตร์: Duttaphrynus melanostictusหรือ ขี้คันคาก ในภาษาอีสานและภาษาลาว หรือที่นิยมเรียกโดยทั่วไปว่า คางคก

    คางคกบ้าน เป็นสัตว์ในวงศ์คางคก (Bufonidae) ชนิดหนึ่ง จัดว่าเป็นชนิดที่มีขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งในวงศ์นี้ มีผิวหนังที่แห้งและมีปุ่มปมทั้งตัว ที่เป็นปุ่มพิษ โดยเฉพาะหลังลูกตา มีรูปทรงกลมคล้ายเมล็ดถั่วขนาดยาวประมาณ 25 มิลลิเมตร กว้าง 10 มิลลิเมตร แผ่นหูมีลักษณะเห็นได้ชัดเจน ขนาดเล็กกว่าลูกตาเล็กน้อย
        คางคกบ้าน มีสีผิวหนังเป็นสีน้ำตาลหรือสีเทาตลอดทั้งลำตัว บริเวณรอบปุ่มพิษจะมีสีเข้มกว่าบริเวณอื่น ๆ ใต้ท้องเป็นสีน้ำตาลเหลืองอ่อน ในขณะที่ยังเป็นวัยอ่อนจะเป็นสีขาวซีดกว่า มีขนาดวัดจากปลายปากจนถึงก้นประมาณ 68-105 มิลลิเมตร พบกระจายพันธุ์ทั่วไปในวงกว้างในทวีปเอเชีย ตั้งแต่แนวเทือกเขาหิมาลัย, อินเดีย, จีนตอนใต้, พม่า, ทุกประเทศในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และพบได้ทั่วไปในทุกสภาพแวดล้อม ทั้งในเมืองใหญ่และในป่าดิบ
          คางคกบ้าน เป็นสัตว์ที่กินแมลงและอาหารได้หลากหลายมาก พบชุกชุมในช่วงฤดูฝน คางคกกินแมลง มด ปลวก เป็นอาหาร บางครั้งกินไส้เดือน วิธีกินคางคกจะใช้ลิ้นที่มีน้ำลายเหนียวแลบออกมา แตะติดสัตว์ที่เป็นอาหารแล้วดึงตวัดกลับเข้าปาก ปกติคางคกหากินเวลากลางคืน ในบริเวณที่มีแสงไฟคางคกจะมารอกินเหยื่อใต้โคนเสาไฟฟ้า 

        คางคกบ้าน มักเป็นสัตว์ที่มีผู้นิยมรับมารับประทานทั้ง ๆ ที่มีพิษ มักมีผู้เสียชีวิตบ่อย ๆ จากการรับประทานเข้าไป โดยเชื่อว่าเป็นยาบำรุงและรักษาโรคต่าง ๆ ได้ โดยพิษของคางคกนั้นไม่สามารถทำให้หายไปได้ด้วยความร้อน


ศัตรูในธรรมชาติของคางคกมีไม่มาก ได้แก่  งูเห่า งูลายสาบคอแดง และงูสิงหางดำ นอกจากนี้ไม่ปรากฏว่ามีสัตว์อะไรกินคางคกอีก สาเหตุการตายหลักๆ ของคางคกในปัจจุบันน่าจะโดนรถทับตายมากที่สุด 

      คางคกเป็นสัตว์ที่ไม่อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำยกเว้นการผสมพันธุ์และวางไข่ จะมีฤดูผสมพันธุ์และวางไข่ในช่วงฤดูร้อนจนถึงปลายฤดูฝน (มีนาคม-กันยายน)


คางคกผสมพันธุ์ในช่วงปลายฤดูฝน คางคกเลือกแหล่งน้ำนิ่งหรือน้ำไหลไม่แรงวางไข่ ไข่คางคกจะเป็นสายพันไว้ตามพืชน้ำ  ไข่มีลักษณะเป็นวุ้นใสยาวเป็นสาย  ไข่สีน้ำตาลเข้มหรือสีดำกลมอยู่ภายใน แม่คางคกถึงมีตัวผู้เกาะอยู่บนหลังจะว่ายไปมาในน้ำตื้น  ค่อยๆ ปล่อยไข่ออกจากท้อง  ในตอนเช้าเรามักเห็นไข่โบกพันไปมาระหว่างพืชน้ำ  ไข่จะใช้เวลา 2 - 3 วันในการฟักเป็นลูกอ๊อดสีดำ  ลูกอ๊อดมักอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่  และใช้เวลาอยู่ในแหล่งน้ำ 2 - 3  เดือน ก็จะพัฒนาเป็นลูกคางคกตัวเล็กๆ  เวลาที่ขึ้นจากน้ำก็จะขึ้นพร้อมๆกัน   ส่วนใหญ่จะขึ้นหลังฝนตกแล้วในฤดูร้อน และจะไปหลบอยู่ตามที่ชื้นๆ

 คางคกส่งเสียงร้องเรียกหาคู่ผสมพันธุ์
คางคกผสพันธ์ใกล้บริเวณริมน้ำแล้ววางไข


ตัวผู้หลายตัวจะแย้งผสมพันธุ์กับตัวเมีย 1 ตัว  เกิดจากบริเวณดังกลาวมีตัวผู้มากจึงเกิดกรณีแย้งกันเกิดขึ้น 

 ไข่ของคางคกมีสีดำสนิท และมีพิษ ช่วงนี้เจ้าของบ่อปลาสวยงามต้องดูแลบ่อปลาตัวเองให้ดี มีหลายๆบ่อที่มีปลาป่วยกันแล้ว ถามไปถามมาไม่ได้เอาปลาใหม่เข้า แต่มีคางคกลงไปวางไข่ เมื่อช่วงก่อนจะหนาว ไข่จะเป็นสายๆใสๆ ในสายๆใสๆ จะเป็นไข่คล้ายๆเม็ดแมงลัก เป็นเส้นๆพันกันไปพันกันมาในบ่อ ไข่คางคกนี้ หากปลาที่เลี้ยงไว้กินเข้าไป ปลาเล็กจะถึงตายได้ ปลาใหญ่ก็จะมีอาการผิดปรกติ เพราะมีพิษกับปลา รวมทั้งการที่คางคกลงไปในบ่อปปลาก็จะนำปรสิตติดลงไปด้วย เช่น ปลิงใส เห็บปลา เป็นต้น


ลูกคางคก







แสดงความคิดเห็น

Post a Comment (0)

ใหม่กว่า เก่ากว่า